ใบปัดน้ำฝน เรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้าม
เมื่อ: อังคาร ก.ย. 25, 2012 10:18 pm
ช่วงนี้ในเขตกรุงเทพมีฟ้าฝนเทกระหน่ำลงมาจนถนนหลายสายกลายเป็นคลอง ผู้คนในกรุงเทพคงจะหวั่นใจไม่น้อยว่าปีนี้ น้ำอาจจะท่วมกทม. ซ้ำรอย เราจึงมองข้ามสิ่งเล็กๆที่อยู่ในรถอย่าง "ใบปัดน้ำฝน" ไม่ได้เลย
ใบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ที่ตั้งตรงหน้า ทุกครั้งที่ขึ้นขับรถ อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ยามที่ฝนไม่ตกอาจจะไม่ได้มีประโยชน์ใดๆมากนัก สำหรับการขับขี่ นอกจากคอยเช็ดทำความสะอาดบนกระจก เมื่อมีสิ่งที่พึงประสงค์อยู่บนหน้า
ตามปกติแล้ว "ใบปัดน้ำฝน" ก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งอื่นที่อยู่ในรถคือมันมีอายุการใช้งานเหมือนกัน เพียงแต่ เราอาจจะไม่ไดสังเกต หรือเป็นสิ่งที่เล็กมากจนหลายคนมองข้ามถึงอายุการใช้งานของมัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ ใบปัดน้ำฝนจะมี อายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และชนิด รวมถึง คุณภาพของยางที่ใช้มาเป็นตัดครีบใบปัดน้ำฝน นั่นเอง
สิ่งที่เป็นข้อคำถามสำคัญคงไม่พ้นว่าแล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าใบปัดเหล่านี้หมดอายุการใช้งานแล้ว คำตอบของเรื่องนี้นั้นมันก็อยู่ตรงหน้า เพราะทุกครั้งที่เราปัดน้ำฝนแล้วเกิดสะดุด สั่น หรือ มีเสียงไม่พึงประสงค์ นั่นคือสัญญาณ บ่งชี้ที่สำคัญว่า ได้เวลาที่เราควรจะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ได้แล้ว ซึ่งตามปกติ แม้ตลอดทั้งปีเราแทบจะไม่ได้ใช้ใบปัดน้ำฝนเลยนอกจากในช่วงฤดูฝน หรือ ฉีดน้ำเช็ดกระจกเล็กๆน้อย แต่ว่าการเสื่อมสภาพของใบปัดน้ำฝันนั้นก็มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร้อนจากแสงแดด ที่จำจะทำให้ครีบใบแห้งและเสื่อมสภาพได้ไวกว่าที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยเราที่มีอากาศร้อนเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว
แม้ฟังดู "ใบปัดน้ำฝน" อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปลี่ยน แต่ก็สามารถยืดอายุการใช้งานได้ ด้วยการหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ เป็นประจำ เพื่อ นำคราบสกปรกหรือฝุ่น ออกจากใบปัด ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือวิธีการทำความสะอาด ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใด ให้ใช้เพียงผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วลูบเท่านั้น เนื่องจาก ใบปัดมีคุณสมบัติเป็นยาง การลงน้ำยา อาจจะทำให้เสื่อมสภาพได้ เร็วกว่าปกติ เช่นเดียวกับที่หลายคนเข้าใจผิดว่าการยกใบปัดน้ำฝนจะช่วยยืดอายุได้ ทั้งที่จริงๆ มันเป็นการยกชูสุ่แดดด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเลือกเปลี่ยนตัวใบปัด ที่ควรเลือกใช้ตามขนาดเดิมที่มากับรถเนื่องจากการเพิ่มขนาดใบปัดไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ เช่นเดียวกับการเลือกชนิดใบปัดที่ควรดูตามความเป็นจริงไม่ควรหลวมตัวกับคำโฆษณา ที่นอกจากจะให้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่ออะไรสักอย่างก็เท่านั้นเอง
หากมองโดยรวม "ใบปัดน้ำฝน" ก็คงไม่ใช่อะไรที่หลายคนจะใส่ใจนัก เพราะนอกจากมันไม่ได้ทำให้รถดูดีและแรงขึ้นแล้ว มันยังไม่ได้ถูกใช้งานบ่อยๆด้วย ทว่า การที่เราเลือกหมั่นใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัยและมั่นใจในยามขับขี่
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
Credit :auto.sanook.com
ใบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ที่ตั้งตรงหน้า ทุกครั้งที่ขึ้นขับรถ อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ยามที่ฝนไม่ตกอาจจะไม่ได้มีประโยชน์ใดๆมากนัก สำหรับการขับขี่ นอกจากคอยเช็ดทำความสะอาดบนกระจก เมื่อมีสิ่งที่พึงประสงค์อยู่บนหน้า
ตามปกติแล้ว "ใบปัดน้ำฝน" ก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งอื่นที่อยู่ในรถคือมันมีอายุการใช้งานเหมือนกัน เพียงแต่ เราอาจจะไม่ไดสังเกต หรือเป็นสิ่งที่เล็กมากจนหลายคนมองข้ามถึงอายุการใช้งานของมัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ ใบปัดน้ำฝนจะมี อายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และชนิด รวมถึง คุณภาพของยางที่ใช้มาเป็นตัดครีบใบปัดน้ำฝน นั่นเอง
สิ่งที่เป็นข้อคำถามสำคัญคงไม่พ้นว่าแล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าใบปัดเหล่านี้หมดอายุการใช้งานแล้ว คำตอบของเรื่องนี้นั้นมันก็อยู่ตรงหน้า เพราะทุกครั้งที่เราปัดน้ำฝนแล้วเกิดสะดุด สั่น หรือ มีเสียงไม่พึงประสงค์ นั่นคือสัญญาณ บ่งชี้ที่สำคัญว่า ได้เวลาที่เราควรจะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ได้แล้ว ซึ่งตามปกติ แม้ตลอดทั้งปีเราแทบจะไม่ได้ใช้ใบปัดน้ำฝนเลยนอกจากในช่วงฤดูฝน หรือ ฉีดน้ำเช็ดกระจกเล็กๆน้อย แต่ว่าการเสื่อมสภาพของใบปัดน้ำฝันนั้นก็มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร้อนจากแสงแดด ที่จำจะทำให้ครีบใบแห้งและเสื่อมสภาพได้ไวกว่าที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยเราที่มีอากาศร้อนเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว
แม้ฟังดู "ใบปัดน้ำฝน" อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปลี่ยน แต่ก็สามารถยืดอายุการใช้งานได้ ด้วยการหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ เป็นประจำ เพื่อ นำคราบสกปรกหรือฝุ่น ออกจากใบปัด ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือวิธีการทำความสะอาด ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใด ให้ใช้เพียงผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วลูบเท่านั้น เนื่องจาก ใบปัดมีคุณสมบัติเป็นยาง การลงน้ำยา อาจจะทำให้เสื่อมสภาพได้ เร็วกว่าปกติ เช่นเดียวกับที่หลายคนเข้าใจผิดว่าการยกใบปัดน้ำฝนจะช่วยยืดอายุได้ ทั้งที่จริงๆ มันเป็นการยกชูสุ่แดดด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเลือกเปลี่ยนตัวใบปัด ที่ควรเลือกใช้ตามขนาดเดิมที่มากับรถเนื่องจากการเพิ่มขนาดใบปัดไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ เช่นเดียวกับการเลือกชนิดใบปัดที่ควรดูตามความเป็นจริงไม่ควรหลวมตัวกับคำโฆษณา ที่นอกจากจะให้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่ออะไรสักอย่างก็เท่านั้นเอง
หากมองโดยรวม "ใบปัดน้ำฝน" ก็คงไม่ใช่อะไรที่หลายคนจะใส่ใจนัก เพราะนอกจากมันไม่ได้ทำให้รถดูดีและแรงขึ้นแล้ว มันยังไม่ได้ถูกใช้งานบ่อยๆด้วย ทว่า การที่เราเลือกหมั่นใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัยและมั่นใจในยามขับขี่
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
Credit :auto.sanook.com